สุนัขเรียนรู้ได้อย่างไร
สุนัขเรียนรู้จากการทดลองและรางวัล
ถ้าทำสิ่งใดโดยบังเอิญหรือโดยตั้งใจแล้วได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
เมื่อนั้นสุนัขก็จะทำพฤติกรรมนั้นซ้ำ
ในทางกลับกัน ถ้าไม่ได้รับรางวัลใดๆเลย
หรืออาจถูกดุ
สุนัขก็จะไม่ค่อยทำพฤติกรรมนั้นอีก
คุณควรคอยสร้างสถานการณ์ที่สุนัขจะได้รับคำชมและให้รางวัลบ่อยๆ
และมากๆ
คุณต้องค้นหาให้ได้ว่า
สิ่งใดเป็นตัวกระตุ้นสุนัข
และอะไรที่จะทำให้ตอบสนองต่อการฝึกได้ดีที่สุด
คุณต้องแสดงให้เห็นว่า
การทำตามคำสั่งจะนำมาซึ่งรางวัลซึ่งส่วนใหญ่สุนัขก็อยากได้รับ
ไม่่ว่าสุนัขจะขี้เล่นหรือขี้อาย
ต่างก็ใช้หลักการเดียวกันในการฝึกและการให้รางวัลตัวที่ขี้เล่นอาจซุ่มซ่ามแต่ก็เรียนรู้เร็ว
ส่วนตัวที่ขี้อายจะระวังตัวและใช้เวลาเรียนรู้มากกว่า
เจ้าของที่ใจร้อนมักรีบให้สุนัขตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆให้มากๆ
เพื่อเปิดโลกทัศน์
และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่มัน
พัฒนาการด้านการเรียนรู้
ในฐานะครูฝึก
ประโยชน์สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการฝึกสุนัขคือ
การได้เห็นสุนัขที่ชอบเก็บตัวกลายมาร่าเริงแจ่มใสมากขึ้นด้วยการปฏิบัติเชิงบวก
แต่พัฒนาการด้านการเรียนรู้ไม่ได้เกิดจากการฝึกอย่างเป็นทางการเลย
เนื่องจากลูกสุนัขที่ตกไปในชามน้ำ
และไม่ชอบประสบการณ์นี้
ก็จะระวังมากขึ้นในคราวหน้า
ส่วนลูกสุนัขที่ชอบเล่นน้ำ
ก็จะมีนิสัยอย่างนั้นตลอดไป
เราสามารถควบคุมการฝึกนี้ได้
ด้วยการทดลองปฏิบัติและการให้รางวัล
โดยมีกุญแจสำคัญคือ
การให้รางวัลเมื่อสุนัขทำตามคำสั่ง
ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ทำอีก
แต่ไม่ใช่หมายความว่า
จะต้องเอาใจด้วยการต้องให้รางวัลกันทุกครั้งไป
หรือไม่อาจดุว่าได้เลย
วิธีที่ถูกคือการผสมผสานการให้รางวัล
การให้ความรักและการเล่นด้วยให้เหมาะสมลงตัว
ความสมดุล
คุณต้องลงโทษเมื่อสุนัขแสดงนิสัยไม่ดี
อย่างเช่น
เด็กๆส่วนใหญ่เมื่อถูกบอกให้ไปนอนมักต้องใช้ขนมหวาน
การชมโทรทัศน์ วิดีโอ
และเกมคอมพิวเตอร์มาหลอกล่อ
แล้วค่อยไปนอนตอนง่วง
แต่พ่อแม่ที่รู้จักความพอดี
จะรู้ว่าวิธีนี้จะเป็นภัยในระยะยาว
ดังนั้นจึงพยายามถ่วงดุลระหว่างการชมเมื่อทำดีกับการเมินเฉยต่อการเรียกร้องความสนใจ
ตำหนิอย่างมีศิลปะ
การให้รางวัลหรือการลงโทษต้องปรับใช้กับสุนัขแต่ละตัว
และต้องใช้ในเวลาที่เหมาะสม(เช่นทันทีที่ทำพฤติกรรมนั้น)
การกระทำที่พบเห็นบ่อยๆ
ก็คือการเรียกสุนัขแล้วไม่มา
เพราะรู้ว่าเมืื่อเดินกลับมาก็ต้องถูกดุ
การที่ผู้เลี้ยงต้องดุเพราะเรียกสุนัขแล้วไม่มาหา
แต่สำหรับสุนัขกลับคิดว่าถูกต่อว่า
เพราะกลับมากา
สุนัขไม่ได้คิดหรือมีเหตุมีผลเช่นมนุษย์
กล่าวคือสุนัขจะเชื่อมโยงการถูกตำหนิกับสิ่งที่ทำอยู่
ในขณะนั้นดังนั้น
แม้แต่สุนัขที่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์
ก็ยังรู้สึกผิดจากภาษากายและน้ำเสียงกระชากๆของเจ้าของถึงจะหงุดหงิด
แต่คุณก็ควรชมที่สุนัขมาหา
และถ้าอยู่ระหว่างการฝึก
ควรพูดว่า "เก่งมาก
เจ้าตัวเล็ก"
ด้วยน้ำเสียงร่าเริงและจริงใจพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
สเตลลา
สมิธ และแซลลี เบิร์กรูส
"สุนัขเรียนรู้ได้อย่างไร"
ใน
คู่มือฝึกสุนัข:
เห็นผลใน
10
สัปดาห์
หน้า 20-21.สิทธิพร
ชื่นชุ่มจิตร์.
บรรณาธิการ.
สมุทรปราการ
.
สำนักพิมพ์แพ็ทแอนด์โฮม.
2545.
dogtraining by Kate Thitikan is licensed under a
Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Thailand License.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น